โอม อวิรุทธ์ อรรคบุตร หนึ่งในตัวแทนของคนทำภาพยนตร์ที่ได้ออกมาเล่าถึงบทความของคนทำหนังความสำเร็จที่เกิดขึ้นจริงในวงการทำหนังหรือผู้อยู่เบื้องหลังภาพยนตร์โดยได้เพจ way magazine ได้โพสต์เนื้อหาและสรุปประโยคใจความสำคัญของคุณโอมลงในเพจ และเป็นเรื่องจริงที่เกิดในวงการหนังโดยใน เพจ way magazine นั้นได้เปิดหัวข้อโพสต์เนื้อหาบทความที่ว่า

“ท่ามกลางสถานการณ์ง่อนแง่นของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย และความสิ้นไร้ไม้ตอกของคนทำหนังในประเทศนี้ ยังมีหนังอินดี้ที่ปลุกกระแสความเป็น ‘อีสาน’ ให้เฉิดฉายขึ้นมาในสนามอุตสาหกรรมสื่อบันเทิงไทย อย่างภาพยนตร์ ‘ไทบ้าน เดอะ ซีรีส์’ อวิรุทธ์ อรรคบุตร ประธานกรรมการบริหารบริษัท เซิ้ง โปรดักชั่น แอนด์ ออร์แกไนเซอร์ เล่าถึงประสบการณ์ล้มลุกคลุกคลานของคนทำหนังตัวเล็กตัวน้อย ก่อนจะเป็นจุดเริ่มต้นของปรากฏการณ์อีสานฟีเวอร์ในเวลาต่อมา”
ก่อนที่จะมีภาพประกอบตอนทำงานเบื้องหลังพร้อมประโยคสรุปที่เกิดขึ้นจริงที่น่าสนใจกับวงการภาพยนตร์ไทบ้าน

“รัฐไม่ค่อยมีบทบาทช่วยเหลืออุตสาหกรรมภาพยนตร์เท่าไร อย่างตอนโควิดระบาด บริษัทสื่อภาพยนตร์ต้องปิดตัวกัน 2-3 เดือน ออกกองก็ไม่ได้ รัฐก็ไม่ได้ยื่นมือเข้ามาช่วย แต่คนที่ยื่นมือกลับเป็น Netflix”
-อวิรุทธ์ อรรคบุตร

“ถ้าใครครองอีสานได้ ก็เท่ากับเป็นศูนย์กลางอำนาจแล้ว ไม่ต้องมองไปไกล มองการเมืองเรานี่แหละ พรรคไหนได้คะแนนจากอีสานเยอะก็มีสิทธิ์ได้เก้าอี้นายกฯ หมายความว่า ถ้าวันหนึ่งอีสานมีความพร้อม เราอาจจะเป็นคนกำหนดทิศทางในหลายอุตสาหกรรมได้”
-อวิรุทธ์ อรรคบุตร

“ต้องยอมรับว่าคนอีสานอยู่ทุกพื้นที่จริงๆ แล้วมันเป็นความภูมิใจบางอย่างว่า อันนี้บ้านกู อันนี้เป็นผลงานการผลิตของคนอีสานนะ มันเลยสร้างกระแสได้เร็ว คนเลยชอบ”
-อวิรุทธ์ อรรคบุตร

“ทุกวันนี้เราค่อนข้างไว้ใจเด็กๆ ให้เขาลองทำ ถึงจะทำออกมาได้ไม่เท่าเรา แต่ก็เป็นนิมิตหมายอันดีที่จะมีคนมาช่วยผลักดันคอนเทนต์อีสานในอนาคต เรามองว่ามันเป็นโอกาสในการส่งไม้ต่อ”
-อวิรุทธ์ อรรคบุตร
ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจากเพจ : way magazine
















